
CHIARA
story
ทำความรู้จักกับเคียร่ามากขึ้นกับเรื่องราวแห่งโชคชะตา

วันแห่งโชคชะตา ในระหว่างที่เคียกำลังดำน้ำชมสิ่งสวยงามของธรรมชาติ เธอหลงไหลมันเป็นอย่างมากจนลืมสิ่งรอบกายเธอปล่อยตัวปล่อยกายตามสบาย ให้สายน้ำได้ชโลมความเหน็ดเหนื่อยที่เธออดทนเรื่องต่าง ๆ มาตลอดทั้งปี เมื่อรู้ตัวอีกทีเธอก็ออกมาจากชายฝั่งไกลเกินไปแล้ว ในขณะที่เธอกำลังจะกลับเข้าฝั่งเธอได้พบเข้ากับลูกฉลามขาวแสนน่าสงสารที่ถูกอวนของชาวประมงมักง่ายทิ้งไว้กลางทะเลจนมันพันติดเกาะเกี่ยวตัวของเจ้าตัวน้อยเข้า จนการว่ายน้ำที่ควรคล่องตัวกลับเป็นไปไม่ได้เมื่ออวนนั้นพันติดคลีบและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย จนน่าสงสาร เธอพยายามตะโกนเข้าไปหาคนบนฝั่งให้รับรู้ถึงเหตุการณ์แต่ไม่เป็นผลเพราะระยะห่างมันไกลเกินไป เธอจึงต้องลงมือช่วยด้วยตัวเอง แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่เป็นผลจากการที่ฉลามขาวนั้นเอาแต่ว่ายวนไปวนมา ถังออกซิเจนเริ่มมีอากาศเหลือน้อยเต็มที เธอพยายามช่วยเหลือเจ้าฉลามขาวจนสุดท้ายอวนที่ติดอยู่ก็หลุดออกมา เจ้าฉลามโลดแล่นอย่างอิสระได้อีกครั้ง แต่มันกับพันเกี่ยวเธอไว้แทน ไม่ว่าเธอพยายามที่จะดึงออกแค่ไหนมันกลับทำไม่ได้อย่างใจนึกกระแสน้ำเริ่มแรงกว่าที่เธอจำได้นั่นหมายความว่าหมดเวลาของการดำน้ำและเธอต้องเข้าฝั่งเดี๋ยวนี้ เมื่ออวนพันเกี่ยวร่างกายของเธอแน่นขึ้นเรื่อย ๆ เธอเริ่มเหนื่อยจากการดิ้นรน ออกซิเจนที่ควรจะมีค่อย ๆ หมดลง เปลือกตาของเธอปิดลงช้า ๆ ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือฉลามขาวตัวที่เธอช่วยเหลือมันว่ายวนรอบตัวเธอไปมาไม่หยุดเหมือนเป็นการขอบคุณที่ช่วยมันไว้ในความคิดของเธอ เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความโล่งใจ ก่อนที่สองดวงตาปิดลงจนสนิท ลมหายใจสุดท้ายดับลง เจ้าฉลามขาวว่ายวนอยู่อย่างนั้นพักใหญ่จนเห็นว่าร่างของเธอได้แน่นิ่งไปในที่สุด มันหยุดดูเธอสักพักหนึ่งเจ้าฉลามตัวน้อยไร้เดียงสา สังเกตเห็นถึงความผิดปกติมันเห็นเชือกอวนเจ้ากรรมเส้นเดิมได้พันธนาการเธอไว้มันพยายามกัดเชือกแม้ว่าจะกัดไปโดนข้อเท้าของเธอบ้างแต่เธอกลับไม่มีปฏิกิริยาใดตอบสนอง เจ้าฉลามทำแบบนั้นจนในที่สุดเชือกก็หลุดออก ร่างกายไร้ลมหายใจของเคียร่าล่องลอยตามกระแสน้ำโดยมีเจ้าฉลามคอยตามร่างของเธออยู่ไม่ห่าง เจ้าฉลามน้อยรู้ดีว่ามันควรพาร่างของเธอไปหาใคร

เรื่องราวของ Chiara ได้ไปถึงแม่มดแห่งท้องทะเล เธอทนกับการรบเร้าของของเจ้าฉลามน้อยไม่ไหวเธอจึงสัญญาที่จะช่วยแต่มีข้อแม้บางอย่าง แม่มดเรียกวิญญาณที่ล่องลอยเคว้งคว้างใต้ท้องทะเลให้มาเจอเพื่อรับข้อเสนอบางอย่าง วิญญาณของ Chiara ปรากฏขึ้นต่อหน้าแม่มด “ที่นี่ที่ไหนหรอคะ” เสียงใสพูดออกมาด้วยความสงสัยพลางมองไปรอบๆ “ฉันช่วยให้เธอกลับไปมีชีวิตเช่นมนุษย์อีกครั้งได้” แม่มดพูดเข้าเรื่องเพื่อไม่ให้เสียเวลา “เธอสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ได้ ว่าไงจะรับข้อเสนอของฉันมั้ย” คิ้วเด็กสาวค่อยๆขมวดกันอย่างช้าๆ และหันไปสบตาแม่มดสักพักหนึ่ง “แล้วฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไง” แม่มดแสยะยิ้มและหัวเราะออกมาเล็กน้อย “การให้ชีวิตใครกลับคืนมามันเป็นสิ่งที่ผิด แต่ในเมื่อเจ้าเพื่อนฟันแหลมของเธอต้องการและยอมแลกข้อเสนอที่ชั้นสนใจมากมาแบบนี้ ชั้นก็พร้อมที่จะเสี่ยง และสาวน้อย ฉันจะมอบอัญมณีนี้ให้กับเธอ ว่ายังไง” แม่มดพูดพลางหยิบอัญมณีสีฟ้าเม็ดเล็กที่เก็บไว้อย่างดีในภาชนะที่ดูประณีตสวยงามขึ้นมาให้เคียร่าดู “แล้วฉันจะเอาสิ่งนี้ไปทำอะไร”เด็กสาวถาม “ถามมากวุ่นวายซะจริง!! ฉันบอกให้เก็บไว้ก็เก็บไว้สิทำไมพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้นะ!!!” แม่มดตวาดใส่เธอและยัดอัญมณีเม็ดเล็กให้กับเธอ แต่เมื่อเธอสงบลง เธอจึงเริ่มพูดต่อ “มันจะทำให้เธอกลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกครั้งหลังจบพิธี แต่ในเมื่อฉันให้อัญมณีเม็ดนี้แก่เธอแล้ว เพื่อนของเธอที่ได้ครอบครองอัญมณีอีกเม็ด ต้องส่งมันมาให้กับฉันเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน” เจ้าฉลามได้ยินดังนั้น ได้คายอัญมณีสีฟ้าสว่างสดใสเม็ดโตให้กับแม่มด “ดีมาก” แม่มดเริ่มแสยะยิ้มท่าทางชั่วร้ายและร่ายมนต์คาถาออกมา “ถึงเวลาที่ข้าจะได้เป็นเจ้าผู้ปกครองมหาสมุทรนี้ ข้ารอเวลานี้มานับพันปี ขอให้อัญมณีมอบพลังให้แก่ข้าแต่เพียงผู้เดียว” เกิดลำแสงสีฟ้าพวยพุ่งออกมาจากอัญมณี เจ้าฉลามขาวเห็นท่าไม่ดีจึงพูดกับแม่มดว่า “แล้วท่านเคียร่าล่ะ ท่านสัญญากับข้าว่าท่านจะช่วยเธอ ” “ช่วยหรอ…ข้าไม่สนใจพวกมนุษย์ไร้ค่าหรอกนะ” แม่มดหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ “อย่างเก่ง วิญญาณของมันก็คงแตกเป็นเสี่ยงๆกลายเป็นแพลงตอนไร้ค่ากระจัดกระจายไปทั่วมหาสมุทรทุกซอกทุกมุมของจักรวาลไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่ถึงข้าอยากจะช่วยก็ช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว เพราะนังเด็กนั่งคงเหลือแค่เศษวิญญาณชิ้นเล็กๆน้อยๆที่เจ้าจะไม่มีทางเจอเธอได้อีกแล้วล่ะ 55555555 วิญญาณของมนุษย์ช่างเปราะบางซะจริง ออกไปจากที่นี่ซะตอนนี้ข้าไม่ต้องการเจ้าแล้ว” แสงสีฟ้าจากอัญมณีเข้าประทะที่ร่างของฉลามน้อย ดวงตานั้นปิดลงช้าๆ

.
.
.
“นี่…เจ้าใช่เจ้าฉลามตัวนั้นหรือป่าว” เสียงใสดังแว่วมาจากหลายทิศทาง ฉลามน้อยค่อยๆลืมตาขึ้น และพบว่าตัวเองได้มาเกยตื้นอยู่ที่ชายฝั่งที่ไหนสักแห่ง “ท่านเคียร่าใช่มั้ย!! ใช่จริงๆด้วยข้าจำได้ ท่านอยู่ที่ไหน” “ดูเหมือนฉันจะกลายเป็นอะไรสักอย่างจิตใจของฉันมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่เจ้าไม่ต้องห่วงนะ เป็นเพราะอัญมณีสีฟ้านี่น่ะช่วยฉันเอาไว้ เศษเสี้ยววิญญาณที่กระจัดกระจายไปทั่วมันเปร่งแสงสีฟ้าดูสวยมากๆเลยล่ะดูสิ เจ้าช่วยข้าตามเก็บเจ้าพวกนี้เพื่อเอามาให้ฉันได้มั้ย ในตอนนี้ฉันกลับไปเหมือนมนุษย์อีกครั้งได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น หากพลังของอัญมณีหมดลง ข้าก็จะกลับเป็นแพลงตอนหมือนเดิมจนกว่าฉันจะสามารถรวบรวมวิญญาณทั้งหมดของฉันได้ อัญมณีบอกฉันมาแบบนี้น่ะ” “เศษอัญมณีนี่ เป็นอัญมณีที่แม่มดได้เข้ามาแย่งชิงไปจากครอบครัวของข้าเมื่อหลายพันปี จนมาถึงตอนนี้ อัญมณียังทำหน้าที่ของมันได้ดีกับผู้ที่ครอบครองมัน ข้าขอโทษนะขอรับท่านเคียร่า จากนี้ข้าจะช่วยท่านตามหาเศษเสี้ยววิญญาณของท่าน ถึงแม้จะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม” “อื้ม!!”

เกร็ดเพิ่มเติมที่จะทำให้คุณรู้จักกับเคียร่ามากขึ้น
Plankton มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คือ drifting หรือ wanderer ดังนั้นแพลงตอนจึงหมายถึง สิ่งมีชีวิตที่ล่องลอยอยู่ในมวลน้ำและมีแรงต้านทานกระแสน้ำน้อย มีความหลากหลายด้านชนิดสูงมาก แพลงตอนเองก็เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารของสัตว์อื่นๆ สิ่งที่ทำให้สมดุลห่วงโซ่อาหารของแพลงตอนเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือ การทิ้งของเสียต่างๆลงในแหล่งน้ำ
แพลงตอน มีส่วนประกอบเป็นทั้งพืชและสัตว์ ถึงจะเป็นสิ่งเล็กๆกระจัดกระจายอยู่โดยทั่วไปในท้องทะเล ถึงแพลงตอนจะเป็นแค่อาหารสำหรับสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่า แพลงตอนเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ก็เปรียบได้กับเคียก็เป็นคนธรรมดาๆคนนึงที่อาศัยอยู่ในโลกที่กว้างใหญ่ร่วมกับผู้อื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เสี้ยววิญญาณของเคียโดนทำลายโดยแม่มดใจร้ายที่ไม่เห็นค่าในความรู้สึกและจิตใจของคนอื่นจึงทำให้เคียต้องได้มาอาศัยอยู่ที่ชายหาดแห่งนี้ และ อัญมณีนั้น เปรียบเสมือนความหวัง
แม่มดแห่งท้องทะเล เปรียบเสมือนความชั่วร้าย ผู้คนต่าง ๆ ที่คิดแต่จะช่วงชิงความสุข ความหวังของคนอื่นไปโดยที่ไม่สนใจใครทั้งสิ้น
ท้องทะเล เปรียบเสมือนภายในจิตใจของคนเรา ยิ่งลงไปลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งลึกลับมากเท่านั้น
ไม่ว่าใครก็มีท้องทะเลอยู่ในใจของตัวเองทั้งนั้นซึ่งนั่นจะเป็นเซฟโซนที่ไม่ว่าใครก็ลงไปไม่ได้ถึงจะลงไปได้ ก็ลงไปในส่วนที่ลึกที่สุดไม่ได้นอกจากตัวของเราเอง
ชายหาด เปรียบเสมือนพื้นที่ปลอดภัยที่ทุกคนสามารถเข้ามาเพื่อพูดคุยเล่นอะไรต่างๆได้อย่างสนุกสนาน นอนเล่น และทำทุกอย่างได้แบบสบายใจต่อกัน
ต้าวเลน้อย จริงๆแล้วดีไซน์มาจากเกาะเล็กๆ ที่ต้าวเลน้อยเองก็จะมีเกาะเป็นของตัวเอง มีชายหาดมีท้องทะเลเป็นของตัวเอง หากในอนาคตเคียร่ามีเมมเบอร์ชิป จะมีระดับของต้าวเลน้อย ที่บนชายหาดของต้าวเลน้อยจะมีของเยอะขึ้นเพิ่มขึ้นมาตามระดับของเมมเบอร์
การเสียชีวิตของเคีย และเกิดใหม่ เปรียบเสมือนการกลับมาใช้ชีวิตในจิตใจของตัวเอง ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะตอนมีความสุขหรือตอนมีความทุกข์ สามารถทำสิ่งที่ต้องการทำ ตามใจตัวเองที่อยากทำจริงๆ และการพักเหนื่อยจากชีวิตที่เคยผ่านมา
ขยะของเสียที่อยู่ในชายหาดของเคีย คือ ถ้อยคำดูถูกคนอื่น คำพูดที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง รู้สึกด้อยค่าตัวเอง สิ่งนี้จึงนับว่าเป็นขยะที่เคียเกลียดมากที่สุด
เจ้าฉลามเอน่อน จริงๆน้องมาจากแมวของเคียที่ตายไปเคียอยู่กับน้องจนวินาทีสุดท้าย และน้องยังอยู่ในใจเสมอ ในเมื่อเราย้ายมาอยู่ในโลกใต้ทะเล อยากให้น้องเป็นสัตว์ที่แข็งแรงโลดแล่นอยู่ในโลกใต้ทะเลของเราได้โดยที่ไม่ต้องห่วงอะไรอีก เราจึงอยากให้น้องกลับมาอยู่ในโลกของเรา ถึงรูปร่างจะเปลี่ยนไป แต่เชื่อว่าจิตใจน้องยังเป็นดวงเดิม
สุดท้ายนี้คนทุกคนมีโลกเป็นของตัวเองที่แบ่งแยกจากโลกความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง เพียงแค่รู้จักตัวเองมากพอ คุณเองก็จะทำให้โลกของตัวเองเป็นเซฟโซนได้และจะรักตัวเองใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะคะ🥰
เรื่องราวของเคีย อาจมีการตีความเปรียบเทียบเยอะหน่อย ถ้าเคียถ่ายทอดออกมาได้รู้สึกงงๆต้องขอโทษด้วยนะคะ เพราะมันมาจากชีวิตของเคียที่เจอมา อาจจะอ่านซ้ำหรือลองจิตนาการตามที่เคียเปรียบเทียบไป ทุกคนน่าจะเข้าใจสิ่งนี้กันมากขึ้นนะคะ
เพราะสุดท้ายแล้ว เคียเองก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึงที่ไม่ได้มีความพิเศษไปมากกว่าคนอื่น
เป็นแค่แพลงตอนตัวน้อยๆในท้องทะเลที่กว้างใหญ่เท่านั้นเองขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ
Chiara Esperanza